5. การจัดแสดงผลงาน

ใบความรู้ที่ 5
เรื่อง การจัดแสดงผลงาน

การจัดแสดงโครงงาน
เป็นการแสดงผลิตผลของโครงงานความคิดเห็นและความพยายามทั้งหมด ที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเทลงไป และเป็นวิธีที่จะทำให้ผู้อื่น ได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้นๆ มีผู้กล่าวเอาไว้ว่า การวางแผนออกแบบเพื่อจัดแสดงผลงานนั้น มีความสำคัญเท่าๆ กับการทำโครงงานนั้นเอง ผลงานที่ทำขึ้นจะดียอดเยี่ยมเพียงใด แต่หากการนำเสนอ ทำได้ไม่ดี ก็เท่ากับไม่ได้แสดงความดีความยอดเยี่ยมของผลงาน
          พื้นที่ที่ใช้ในการจัดแสดงโครงงาน ควรมีพื้นที่ขนาดใหญ่เพียงพอต่อการจัดแสดงโครงงาน มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการนำเสนอหน้าแผงนิทรรศการ ตลอดจนสาธิตการทำงานของอุปกรณ์หรือสิ่งประดิษฐ์ที่เกิดจากการทำโครงงานมีเครื่องอำนวยความสะดวกพื้นฐาน ที่จำเป็นต่อการจัดนิทรรศการเช่น ระบบแสงสว่าง ระบบไฟฟ้า น้ำประปา ควรเป็นสถานที่โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก
การจัดแสดงโครงงานอาจทำได้หลายรูปแบบแตกต่างกันออกไปแต่รูปแบบที่เป็นที่นิยมกันในการนำเสนอ ได้แก่
1. การรายงานปากเปล่า หรือรายงานประกอบสื่อ ซึ่งอาจจะเป็นตาราง กราฟ รูปภาพ แผ่นใสประกอบเครื่องOver head projector หรือ Power point เป็นต้น
2. การจัดนิทรรศการโดยไม่มีการอธิบายประกอบ
3. การจัดนิทรรศการประกอบการนำเสนอด้วยคำพูดของผู้ทำโครงงาน
การนำเสนอที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุด คือการจัดนิทรรศการประกอบการนำเสนอด้วยคำพูดของผู้ทำโครงงาน เพราะผู้ชมได้เห็นของจริง สามารถซักถามเรื่องที่สนใจ สงสัย หรือไม่เข้าใจจาก ผู้ทำโครงงานได้โดยตรง การจัดแสดงโครงงาน ไม่ว่าจะจัดในรูปแบบใดหรือลักษณะใด ก็ควรจะจัดให้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ ซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อโครงงาน ชื่อผู้ทำโครงงาน ชื่อที่ปรึกษา สถานศึกษา
2. คำอธิบายย่อๆ ถึงเหตุจูงใจในการทำโครงงาน และความสำคัญของโครงงาน
3. วิธีการดำเนินงาน เลือกเฉพาะขั้นตอนที่เด่นและสำคัญ
4. การสาธิตหรือแสดงผลที่ได้จากการทดลอง
5. ผลการสังเกตและข้อมูลเด่นๆ ที่ได้จากการทำโครงงาน
6. สรุปผลที่ได้จากการทำโครงงานหรือผลที่เกิดจากโครงงาน
การจัดแผงโครงงาน
          การจัดนิทรรศการโครงงานโดยทั่วไป จะนำเสนอข้อมูลลงในแผงจัดแสดงโครงงาน ซึ่งมีการกำหนดขนาดไว้เป็นมาตรฐาน กำหนดให้มีจำนวน 3 แผ่น คิดกันเป็นชุดเดียวกันคือแผ่นกลางซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดมีขนาด 60 เซนติเมตร X 120 เซนติเมตร และแผ่นที่เป็นปีกติดอยู่ทั้ง 2 ข้างสามารถพับเก็บได้ มีขนาดเท่ากันคือ 60 เซนติเมตร X 60 เซนติเมตร โดยปกติมักจะทำมาจากแผ่นไม้อัดหรือแผ่นฟอร์ไมกา ซึ่งมีขนาดเท่ากัน และเป็นผลิตภัณฑ์มาตรฐานที่นิยมใช้ในงานทั่วไป ปัจจุบันนิยมใช้แผ่นพลาสติกลูกฟูก หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าฟิวเจอร์บอร์ด มีขนาดเท่ากันกับแผ่นไม้อัด แต่ สามารถตัดแต่งได้ง่ายด้วยมีดหรือคัตเตอร์ น้ำหนักเบา มีหลายสีให้เลือก และราคาไม่แพงจนเกินไปแต่มีข้อเสียคือ มีความแข็งแรงทนทานน้อย อาจหักพับหรือรูปทรงบิดเบี้ยวได้ง่าย       แผงโครงงาน 1 แผง เปรียบเสมือนหนังสือหรือรายงาน 1 เล่ม ดังนั้นจึงต้องทำให้สมบูรณ์และจบในตัวเอง โดยปกติการอ่านหนังสือจะเริ่มตั้งแต่คำนำ สารบัญ บทที่ 1 ไปจนถึงบทสุดท้ายบทสรุปและข้อเสนอแนะ การลงรายละเอียดการทำโครงงานก็เช่นเดียวกัน จะนำเสนอข้อมูลโดยเริ่มตั้งแต่ด้านปีกซ้าย ไล่ไปจนจบการนำเสนอในปีกขวา ดังนั้นข้อมูลที่นำเสนอควรประกอบด้วยหัวข้อ ดังนี้
แผ่นปีกซ้าย ควรประกอบด้วยหัวข้อ
1. ชื่อโครงงาน ควรใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ สีสันสดใส มองเห็นได้ชัดเจน ที่ด้านบนสุด หากชื่อโครงงานมีขนาดยาว ไม่สามารถบรรจุในแผ่นปีกซ้ายได้หมด อนุโลมให้นำไปใส่ไว้ด้านบนสุดในแผ่นกลาง
2. ชื่อผู้ทำโครงงาน ลงชื่อผู้ทำโครงงานทั้งหมด อาจนำรูปถ่ายของผู้ทำโครงงานประกอบด้วยก็ได้
3. ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน หากมีหลายคนอาจพิจารณานำมา 2-3 คน
4. สถานศึกษา
5. ที่มาและความสำคัญในการทำโครงงาน
6. จุดประสงค์การทำโครงงาน
แผ่นกลาง ควรประกอบด้วยหัวข้อ
วิธีดำเนินงาน ควรแยกออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
          - วัสดุอุปกรณ์
          - วิธีดำเนินงาน  อาจเป็นการสำรวจ การทดลอง หรือการทำสิ่งประดิษฐ์ก็ได้ ตามลักษณะโครงงานที่ทำ ในส่วนนี้ผู้ทำโครงงานต้องอธิบายขั้นตอนการดำเนินงานให้ละเอียด ชัดเจน และควรอธิบายแยกเป็นข้อๆ หากมีภาพถ่ายอธิบายวิธีการและขั้นตอนการดำเนินงาน ก็สามารถนำเสนอโดยการแทรกลงในส่วนนี้ก็ได้ หรืออาจแยกนำเสนอเป็นกลุ่มเฉพาะรูปภาพและคำอธิบายภาพไว้ด้านล่างก็ได้ ไม่มีรูปแบบตายตัว ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ทำโครงงาน ทั้งนี้ต้องจัดให้เหมาะสมและสวยงาม
แผ่นปีกขวา ควรประกอบด้วยหัวข้อ
1. ผลการทดลองหรือผลการดำเนินงาน
2. อภิปรายและสรุปผล
3. คำขอบคุณ ซึ่งก็คือกิตติกรรมประกาศนั่นเอง หากนำเสนอในตอนต้นของรายงานเรียกว่ากิตติกรรมประกาศ แต่หากนำเสนอในส่วนท้ายรายงานจะเรียกว่าคำขอบคุณ ทั้งนี้ให้เลือกนำเสนออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ควรนำเสนอพร้อมกันทั้ง 2 ส่วนหัวข้อต่างๆ ในการจัดแผงโครงงานที่ยกมาเป็นตัวอย่างนี้ เป็นเพียงแนวทางในการนำเสนอข้อมูลเท่านั้น ผู้ทำโครงงานอาจเปลี่ยนแปลงให้มีความเหมาะสม ตามธรรมชาติโครงงานของตัวเองทั้งนี้ต้องให้เริ่มต้นจากด้านซ้ายของแผง และจบการนำเสนอในแผงด้านขวา
การจัดนิทรรศการประกอบแผงโครงงาน
การจัดนิทรรศการประกอบแผงโครงงานนั้น หากเป็นโครงงานที่สามารถสาธิตการทดลองให้ผู้ชมได้ดูได้ก็จะเป็นการดี ผู้ทำโครงงานสามารถสาธิตการทดลองบริเวณหน้าแผงงานของตัวเอง หากไม่สามารถสาธิตได้ ก็ควรนำองค์ประกอบในการทำโครงงาน นำเสนอบนโต๊ะหน้าแผงโครงงาน เช่นวัสดุหรือวัตถุดิบที่ใช้ในการทำโครงงาน วัสดุอุปกรณ์ประกอบการดำเนินงาน ผลิตภัณฑ์หรือผลผลิตที่เกิดจากการทำโครงงาน ฯลฯ จัดนำเสนอให้สวยงามน่าสนใจ ไม่ควรปล่อยให้โต๊ะนิทรรศการว่างจนเกินไป หรือไม่วางสิ่งของต่างๆ แน่นจนเกินไป จนขาดความสวยงามขององค์ประกอบทางศิลป์ทั้งนี้ วัสดุอุปกรณ์และผลผลิตจากการทำโครงงาน ควรติดป้ายบอกชื่อให้ชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร  หากผลผลิตจากการทำโครงงาน เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีขนาดใหญ่ ไม่สามารถนำเสนอบนโต๊ะนิทรรศการได้ ก็สามารถวางบนพื้นหน้าแผงโครงงานหรือบริเวณใกล้เคียง ที่ไม่กีดขวางการอธิบายหรือนำเสนอของผู้ทำโครงงาน
การทำแผ่นพับ
          แผ่นพับ หรือที่นิยมเรียกกันทั่วไปว่าโบชัวร์ เป็นเอกสารการนำเสนอรายละเอียด ในสิ่งที่ต้องการให้ผู้ชมได้รับรู้รายละเอียดการทำโครงงาน แผ่นพับจะบอกให้ทราบถึงชื่อโครงงาน ผู้จัดทำ สถานศึกษา จุดมุ่งหมาย แรงจูงใจในการทำ วิธีการและขั้นตอนการดำเนินงานผลการดำเนินงาน สรุปผล ตลอดจนข้อเสนอแนะของผู้ทำโครงงาน แผ่นพับนี้ นอกจากจะบอกรายละเอียดของโครงงานแล้ว ยังแสดงถึงความสามารถ ความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์ของผู้ทำโครงงานด้วย เพราะแผ่นพับนี้ต้องจัดทำให้เรียบร้อย สวยงามดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็น ข้อมูลรายละเอียดที่จะนำมาจัดทำแผ่นพับ ก็คือข้อมูลที่นำเสนอในแผงโครงงานนั่นเองอาจมีการปรับปรุงรายละเอียด โดยการปรับลด แก้ไข หรือเพิ่มเติมให้เหมาะสมแต่รายละเอียดส่วนใหญ่ก็ยังคงเหมือนเดิม
การรายงานปากเปล่า
ในการแสดงผลงาน ถ้าผู้นำเสนอต้องอธิบาย รายงานปากเปล่า หรือตอบคำถามต่างๆ ต่อผู้ชมหรือต่อกรรมการตัดสินโครงงาน การอธิบาย ตอบคำถาม หรือรายงานปากเปล่านั้น ควรคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
1. ทำความเข้าใจกับเรืองที่จะอธิบายเป็นอย่างดี
2. ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับระดับของผู้ฟัง ชัดเจน เข้าใจง่าย
3. ควรรายงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม
4. หลีกเลี่ยงการนำเสนอโดยการอ่าน แต่อาจจดหัวข้อสำคัญๆ เพื่อให้การรายงานเป็นไปตามขั้นตอน
5. อย่าท่องจำรายงาน เพราะทำให้ดูไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ควรอธิบายตามความเข้าใจ
6. ขณะรายงานควรมองตรงไปยังผู้ฟัง ไม่ควรก้มหน้า หลบหน้าหลบตา หรือแสดงอาการเขินอาย
7. เตรียมตัวตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้ดี
8. ตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงสิ่งที่ไม่ได้ถาม
9. หากติดขัดในการอธิบาย หรือไม่สามารถอธิบายได้ ควรยอมรับโดยดี
ไม่ควรกลบเกลื่อนหรือหาทางเลี้ยงเป็นอย่างอื่น
10. ควรรายงานให้เสร็จในระยะเวลาที่กำหนด
11. ใช้สื่อประกอบการรายงาน เช่น แผ่นโปร่งใส หรือ Power point เป็นต้น
          สิ่งสำคัญก็คือพยายามให้การนำเสนอผลงานนั่น ดึงดูดความสนใจผู้ชม มีความชัดเจน เข้าใจง่ายและมีความถูกต้องในเนื้อหา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น